Wedding Day
ร่างสูงโปร่งใส่สูทสีดำย่างเท้าเดินดูแลความเรียบร้อยภายในงานแต่งงานของตน งานวันนี้เขาไม่ได้เชิญใครที่สำนักงานมาเลยสักคนเว้นก็แต่โฮซอกมิตรสหายร่วมสำนักงานและยุนกิเพื่อนรักอีกคนของเขา
"โอ้โห วันนี้เพื่อนเราหล่อชะมัดเลยว่ะ ออร่าคนเป็นเจ้าบ่าวแผ่รังสีความหล่ออกมาซะคลุ้งเลย ว่าไงครับสามีป้ายแดง"
ยุนกิเอ่ยทักร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาหาตนที่กำลังยืนดื่มด่ำกับอาหารและเครื่องดื่มที่จัดเลี้ยงแขกที่มาร่วมงาน
"พูดอย่างกับไม่เคยเห็นมันแต่งตัวแบบนี้ไปได้ มันก็แต่งแบบนี้ไปทำงานอยู่ทุกวัน ไม่เห็นดูหล่อขึ้นตรงไหนเลย....เพราะเพื่อนเราหล่ออยู่แล้ว"
โฮซอกเองก็ไม่น้อยหน้า เอ่ยหยอกล้อผู้เป็นเจ้าบ่าวของงานในวันนี้อย่างสนุกสนาน เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับยุนกิอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอาใบหน้าหล่อของเจ้าบ่าวหนุ่มต้องยกยิ้มออกมา
"พอเลยๆทั้งสองคน ทีตอนนี้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ ฉันไม่ได้เดินมาตรงนี้เพื่อให้พวกแกยืนแซวนะเว้ย"
"แล้วมีอะไรให้พวกผมช่วยครับคุณเจ้าบ่าว"
"ฝากดูแลเรื่องความปลอดภัยภายในงานด้วย พบเห็นคนแปลกหน้ารีบแจ้งทีมบอร์ดี้การ์ดทันทีเข้าใจมั๊ย"
"ครับท่าน!!"
โฮซอกกับยุนกิทำท่าทางตะเบ๊ะแบบตำรวจพร้อมกับเอ่ยรับคำสั่งคนเป็นเพื่อน เรียกรอยยิ้มบนสีหน้าของจองกุกได้เป็นอย่างดี มือหนาเอื้อมไปดันมือเพื่อนรักทั้ง 2 ที่ตะเบ๊ะอยู่ลง ด้วยความสงสัย....ยุนกิจึงได้เอ่ยถาม
"เออ แล้วนี่เมื่อไหร่เจ้าสาวมึงจะมาวะ กูอยากเห็นเขาจะแย่ละ เห็นโฮซอกบอกว่าน่ารัก น่ารักจริงๆเหรอวะ"
"อย่ามายุ่งกับคนของกู ถึงจะน่ารักมึงก็ไม่มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้นะเว้ย"
"โหหหหหหหหห หวงจริงหวงจังว่ะ"
"เออ รู้ไว้ก็ดีแล้ว"
"แล้วมึงไปคบกับเขาตอนไหนวะ ทำไมกูไม่เห็นรู้เลย เห็นแต่พาน้องๆในผับกูขึ้นห้องแทบทุกอาทิตย์ มีตัวจริงตั้งแต่ตอนไหนวะ.."
"ไม่ต้องรู้หรอกหน่า รู้แค่ว่ากูกำลังจแต่งงานกับเขาก็แล้วกัน"
"เออๆ ไม่รู้ก็ได้ โฮซอก....มึงรู้ใช่ปะ ไว้ค่อยคุยกัน"
"ยุนกิ....."
"555555 โหดจังวะ เป็นเจ้าบ่าวทำหน้าให้มันดีๆหน่อย มายืนขู่แขกแบบนี้ เดี๋ยวไม่หล่อนะเว้ย"
ยังไม่ทันที่ทั้ง 3 หนุ่มจะได้พูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ เสียงเรียกของดานีจากด้านหลังก็เรียกให้จองกุกต้องปลีกตัวออกจากวงสนทนาทันที
"คุณหนูคะ!! ได้เวลาเตรียมตัวเข้าพิธีแล้วค่ะ"
"ครับป้าดานี"
จองกุกยกมือขอตัวจากกลุ่มสนทนาก่อนจะเดินออกไปเพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้น ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกสูดเข้าไปจนเต็มปอดก่อนจะปล่อยออกมา มือหนายกขึ้นมาตบเข้าที่อกด้านซ้ายที่ตอนนี้กำลังเต้นตุบๆ
"ตื่นเต้นเหรอคะ"
"ใครบอกครับ ผมไม่ได้ตื่นเต้นสักหน่อย"
"ใครนะ.....บอกป้าว่าไม่อยากแต่งงาน แต่พอเอาเข้าจริงก็คิดจัดการงานด้วยตัวเองหมดจนออกมาดีขนาดนี้แถมยังมายืนใจเต้นยิ้มหน้าบานอยู่ตรงนี้อีก"
จองกุกหันมายิ้มให้กับดานีทันที เขาไม่ปฏิเสธคำพูดของดานีเลยเพราะตอนแรกเขาก็ไม่อยากแต่งงานจริงๆ แต่พอเวลาผ่านไปเขากลับจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองจนมีงานวันนี้ได้ มันน่าเหลือเชื่อสำหรับเขาจริงๆ
ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนเปื้อนรอยยิ้มออกมาทันที มือหยาบเอื้อมขึ้นไปลูบที่กลุ่มผมของคุณหนูผู้เป็นที่รักของเธอ น้ำตาที่เอ่อคลอที่ดวงตาบ่งบอกว่าเธอกำลังมีความสุข
"คุณหนูของป้าโตแล้วจริงๆสินะคะ ป้าเห็นคุณหนูมาตั้งแต่ตัวเท่าฝาหอย เลี้ยงดูปูเสื่อมาจนคุณหนูเรียนจบ มีการมีงานทำ จนตอนนี้คุณหนูของป้ากำลังจะแต่งงานมีครอบครัวแล้ว ป้าดีใจมากๆเลยนะคะที่ได้เห็นคุณหนูเติบโตเป็นผู้ใหญ่สมวัยสักที"
เมื่อได้ยินคำพูดอันหนักอึ้งของแม่นม ร่างสูงก็ค่อยๆโน้มตัวลงกอดแม่นมไว้อย่างออดอ้อนราวกับว่าเขายังเป็นเด็กที่ยังไม่โต
"ผมรักป้าดานีนะครับ ป้าเปรียบเสมือนแม่ของผมอีกคนของผม ขอบคุณมากๆที่ป้าเลี้ยงดูผมและอยู่ข้างๆผมมาตลอด"
"คุณหนูเลิกอ้อนป้าได้แล้ว ไปค่ะ! เดี๋ยวไม่ทันพิธี"
------------------
ห้องแต่งตัวอีกฝั่งของลานพิธี
"คุณจีมิน...พร้อมหรือยังคะ"
ร่างบางของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าสาวของงานในวันนี้ค่อยๆยันกายลุกขึ้นยืนส่องกระจกดูแลความเรียบร้อยครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินไปหยิบช่อดอกไม้สีขาวมาถือไว้ในมือและเดินออกจากห้องแต่งตัวไปตามทางที่มีคนนำพาเขาไป
จังหวะหัวใจที่เต้นเร็วเพราะความกังวลที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามากัดกินในหัวใจของตน แต่ละย่างก้าวที่เดินไปบนผืนพรมมันทำให้ร่างบางค่อยๆก้าวเข้าใกล้คำว่าภรรยาเข้าไปทุกที
ริมฝีปากเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง ดวงตาเรียวผิดลงช้าๆ สูดลมหายใจเข้าปอดจนเต็มก่อนจะผ่อนออกมาเพื่อหวังลดความกังวล
ขาเรียวเดินมาหยุดที่หน้าห้องที่เขาก็ไม่รู้ว่าคือห้องอะไร แต่ความกังวลก็หายไปทันทีเมื่อสายตาคู่เรียวพบกับผู้เป็นพ่อที่ยืนรออยู่ด้านหน้าประตูพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ตน
"วันนี้หนูดูดีมากๆเลยนะ"
"ขอบคุณครับคุณพ่อ"
"ต่อจากนี้ไปหนูจะกลายเป็นลูกชายอีกคนของพ่ออย่างเต็มตัวแล้วนะ พ่อดีใจมากๆที่ในที่สุดพ่อก็มีวันนี้ วันที่ลูกของพ่อทั้ง 2 คนได้แต่งงานกัน"
"จีมินก็ดีใจครับที่จีมินได้ตอบแทนบุญคุณคุณพ่อ ขอบคุณมากๆเลยนะครับที่คุณพ่อเลี้ยงดูจีมินมาตลอด"
"เราพร้อมรึยัง"
"พร้อมแล้วครับ"
ผู้เป็นพ่อก้าวเท้ามายืนที่ด้านข้างของลูกชายพร้อมกับยกแข่งตั้งขึ้นให้อีกคน มือเรียวยกขึ้นมาเกาะแขนของผู้เป็นพ่อไว้ก่อนที่ทั้งคู่จะหันไปส่งยิ้มให้กัน และแล้วประตูด้านหน้าของทั้งคู่ก็เปิดออก
ทั้งคู่ค่อยๆเดินไปตามทางที่ถูกปูด้วยพรมสีแดง ริมทางเดินตกแต่งไปด้วยดอกไม้สีขาวประดับยาวไปตลอดทาง โค้งสุดท้ายของทางเดินมีซุ้มประตูดอกไม้ตั้งตระหง่านอยู่พร้อมกับหญิงสาวอีก 2 คนที่ยืนอยู่ด้านข้างของซุ้มประตู
ขาวเรียวย่างก้าวไปด้านหน้าด้วยใจที่เต้นรัวก่อนที่จีมินจะเดินผ่านซุ้มประตูเข้าไปในลานพิธี
เมื่อเห็นร่างบางเดินเข้ามา แขกเหรื่อภายในงานก็หันมามองกันเป็นตาเดียว ความสวยสง่าของคนตัวเล็กทำเอาทุกคนเหมือนต้องมนต์สะกด ไม่เว้นแม้แต่เจ้าบ่าวของงานอย่างจองกุกที่ตั้งแต่ที่จีมินเดินผ่านซุ้มประตูเข้ามาเขาก็ละสายตาไปจากคนตัวเล็กไม่ได้เลย
ยอมรับจากใจเลยว่าคนตรงหน้าเขาวันนี้ สวยมากๆ.......
ยงบินและจีมินเดินมาหยุดที่ด้านหน้าจองกุก ผู้เป็นพ่อเดินเข้าไปหาจองกุกและพูดอะไรบางอย่างกับลูกชายของตน
"รู้มั๊ยว่าวันนี้เป็นวันที่พ่อมีความสุขที่สุดในโลก ดวงใจของพ่อทั้ง 2 ดวงกำลังจะได้อยู่ด้วยกัน ทั้งจีมินและจองกุก...คือดวงใจของพ่อ ต่อจากนี้ไป...ดูแลจีมินแทนพ่อด้วย"
พูดเสร็จยงบินก็เดินกลับไปหาจีมิน ผู้เป็นพ่อโอบกอดร่างของลูกชายอีกตัวเล็กไว้ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่ที่นั่งด้านหน้า
เสียงแหบพร่าแสดงให้เห็นถึงความสูงอายุของบาทหลวง เอ่ยคำพูดเพื่อเป็นการเริ่มเข้าสู่พิธีอันศักดิ์สิทธิ์
"จอนจองกุก และ พัคจีมิน ท่านทั้งสองมาที่นี่โดยไม่ถูกบังคับ แต่มาโดยสมัครใจใช่อย่างแท้จริงเพื่อเข้าสู่พิธีสมรสใช่หรือไม่"
".../ครับ"
ดวงตาคู่เรียวหลุบขึ้นไปมองคนตรงหน้าทันที ใบหน้าหล่อที่ไร้รอยยิ้มกำลังยืนเหม่อลอยไร้อารมณ์จนไม่ได้ยินสิ่งที่บาทหลวงพูดเลยสักนิด จีมินเอื้อมมือไปจับที่แขนของจองกุกเบาๆก่อนที่จะส่งสัญญาณให้อีกคนทำตามพิธีที่ซักซ้อมกันมา
"ครับ"
"เมื่อเข้าสู่พิธีสมรส ท่านทั้งสองพร้อมที่จะรักและยกย่องให้เกียรติซึ่งกันและกันไปจนตลอดชีวิตหรือไม่"
"ครับ/ครับ"
"ถ้าท่านทั้งสองมีเจตจำนงที่จะสมรสกัน ขอให้ท่านจับมือของกันและกัน พร้อมกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าสักขีพยานที่นั่งอยู่ในพิธีมงคลสมรสนี้"
จองกุกยังคงยืนนิ่งไม่ยอมยื่นมือไปจับมือของจีมินที่ยืนรอให้จองกุกยื่นมือไปจับมือของเขาอยู่ ทำให้ยงบินต้องส่งเสียงกระแอมในคอเบาๆเพื่อเรียกสติของจองกุกให้กลับมา ก่อนที่จองกุกจะเอื้อมมือไปจับกับมือของจีมิน
"...."
"จองกุก พูดสิ!"
ผู้เป็นพ่อยังคงทำหน้าที่เตือนสติลูกชายให้ทำตามพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ที่คู่สมรสจะต้องกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ อันที่จริง....จองกุกไม่ได้ลืมที่จะพูด....เพียงแต่เขาไม่อยากกล่าวมันเพื่อเป็นการสาบานเท่านั้นเอง.....
"คุณจองกุกครับ......"
เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้าเพื่อให้เขาทำตามพิธีที่ควรจะเป็น ลมหายใจจากคนตรงหน้าผ่อนออกมาเบาๆ ก่อนที่ร่างสูงจะเอ่ยคำปฏิญาณตามที่ได้ซ้อมมา
ดวงตาคู่คมเลื่อนไปสบเข้ากับดวงตาคู่เรียวของคนตรงหน้า นัยตาที่แฝงไปด้วยความสุขของจีมินทำให้อารมณ์ของเขาไหวเอนไปเล็กน้อย.....
"ข้าพเจ้า จอน จองกุก ขอรับคุณ พัค จีมิน เป็น.....ภรรยา......และขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ......จนกว่าชีวิตจะหาไม่....."
"ข้าพเจ้า พัค จีมิน ขอรับคุณ จอน จองกุก เป็นสามีและขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่"
เมื่อทั้งคู่กล่าวเสร็จ บาทหลวงก็หันไปหยิบกล่องแหวนกำมะหยี่สีแดงสดมายื่นให้กับจองกุกและจีมิน ก่อนจะเอ่ยให้ทั้งคู่สวมแหวนให้กันและกัน
"ข้าพเจ้าเสกแหวนสองวงนี้ ซึ่งท่านทั้งสองจะสวมใส่ให้แก่กันและกัน เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงความรักและความซื่อสัตย์...เจ้าบ่าวสวมแหวนให้เจ้าสาว"
มือหนาเปิดกล่องแหวนกำมะหยี่ออกเผยให้เห็นแหวงวงงามที่เขาเลือกเองกับมือ เขาหยิบมันออกมาก่อนจะใช้มืออีกข้างเอื้อมไปจับมือข้างซ้ายของคนตรงหน้าขึ้นมา ค่อยๆบรรจงสวมแหวนลงที่นิ้วนางข้างซ้ายพร้อมกับจดจูบลงบนนิ้วที่ใส่แหวน
ดวงตาคู่เรียวเบิกโตทันทีกับพฤติกรรมของคนตรงหน้าที่กระทำออกมาอย่างที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว
"เจ้าสาวสวมแหวนให้เจ้าบ่าว"
สิ้นเสียงพูดของบาทหลวง มือเรียวก็ยกขึ้นมาเปิดกล่องแหวนกำมะหยี่ออกพร้อมกับหยิบแหวนที่ออกแบบมาให้เหมือนกับอีกวง มือเรียวเอื้อมไปจับมือข้างซ้ายของร่างสูงขึ้นมาก่อนจะบรรจงสวมแหวนเข้าที่นิ้วนางข้างซ้าย
"ต่อจากนี้ไป ท่านทั้งสองคือคนๆเดียวกัน จงจดจำคำพูดของท่านในวันนี้เอาไว้และปฏิบัติตามด้วยความซื่อสัตย์ รักของท่านจงยั่งยืนตลอดไป"
หลังจากเสร็จพิธีแขกในงานต่างพากันลุกขึ้นยืนปรบมือให้กับคู่สมรสก่อนจะเปลี่ยนสถานที่ไปยืนกันด้านนอก ต่างคนต่างยึดแย่งที่จะยืนอยู่ด้านหน้าสุดเพื่อให้ตนได้รับช่อดอกไม้
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเริ่มเข้าที่ ร่างบางก็หันหลังทันที พรางเอ่ยนับถอยหลังเพื่อเตรียมโยนช่อดอกไม้ในมือของตน
"จะโยนแล้วนะครับ 3.....2.....1"
ช่อดอกไม้ที่เคยอยู่ในมือของจีมินถูกโยนให้ลอยเคว้งอยู่ในอากาศก่อนจะหล่นลงใส่มือของชายหนุ่มร่างบางที่ยืนอยู่ในกลุ่ม ยุนกิกระโดดดีใจยกใหญ่พร้อมกับชูดอกไม้ในมือขึ้นไปมาทำให้จองกุกหลุดยิ้มกับพฤติกรรมของเพื่อนรักทันที
ความสนุกสนานของพิธีโยนช่อดอกไม้เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น ก่อนที่โฮซอกเดินออกมาทางด้านหน้าของกลุ่มคน พร้อมกับส่งเสียงพูดออกมาดังๆ
"เอาล่ะครับทุกๆคน ตอนนี้ก็ใกล้จะเสร็จพิธีแล้วนะครับ แต่ว่าเอ๊ะ........บ่าวสาวของเราลืมอะไรไปรึป่าวนะ"
"แล้วมันคืออะไรวะโฮซอก"
ยุนกิเองก็ทำตัวเป็นคนขี้ยุรับส่งคำพูดกับโฮซอกเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับโฮซอกขึ้นมาทันที แหงล่ะ พวกเขากำลังมีแผน....
"ก็ ก็ ก็ ก็...........จูบกันไง อ้าว! ทุกคน จูบเลย! จูบเลย! จูบเลย!"
แขกในงานพร้อมใจกันส่งเสียงเชียร์ตามโฮซอกและยุนกิให้จองกุกกับจีมินจูบกัน และเรื่องแบบนี้จองกุกไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง มือหนาจัดการรั้งเอวบางของคนตัวเล็กเข้ามาใกล้ก่อนจะก้มลงกดจูบลงบนริมฝีปากอิ่มของจีมิน
เนิ่นนานจนลมหายใจของทั้งคู่แทบจะผสานกัน จองกุกกดจูบริมฝีปากของจีมินค้างเอาไว้ ใบหน้าหล่อค่อยๆเอียงปรับองศาเล็กน้อยก่อนจะเริ่มส่งลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากของคนตรงหน้าที่ครั้งนี้จีมินยอมเปิดออกให้ได้เชยชิมง่ายๆ
ความหวานของรสจูบในวันแต่งงานมันอ่อนโยนกว่าครั้งไหนๆ.......มันเป็นความทรงจำที่ทั้งคู่ไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต
---------------------
พิธีเลี้ยงของงานแต่งในช่วงเย็นถูกจัดขึ้นที่บริเวณสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์ตระกูลจอน บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แขกที่มาร่วมงานต่างพากันเดินเล่น เต้น กิน กันจนผู้เป็นเจ้าภาพงานอย่างจองกุกอดที่จะมีความสุขตามไปไม่ได้
จองกุกที่ยืนมองบรรยากาศภายในงานอยู่กับโฮซอกและยุนกิพรางยกแก้วแชมเปญที่จัดเอาไว้เลี้ยงแขกในงานขึ้นมาดื่มพร้อมพูดคุยกับเพื่อนรักของตนอย่างออกรสออกชาติ แต่สายตาคู่คมกลับสะดุดเข้ากับชายหนุ่มร่างบางที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของตนไปหมาดๆ กำลังยืนคุยอย่างสนุกสนานกับชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของใบหน้าคมคายอยู่อีกทาง
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันที ความหึงหวงเริ่มเข้ากัดกินหัวใจของจองกุกทีละนิดๆ ก่อนที่จองกุกจะจัดการวางแก้วแชมเปญลงที่เดิมและก้าวเท้าเดินเข้าไปหาคน 2 คนที่กำลังคุยกันอยู่ไม่ไกล
"จีมิน!"
"คุณจองกุก.....นี่เพื่อนจีมินเองครับ เป็นคนขององค์กรคุณพ่อ"
"สวัสดีครับคุณจองกุก ผม...คิมแทฮยองครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ"
"มากับฉัน..."
เหมือนเป็นฝุ่นผงในอากาศ จองกุกไม่ได้สนใจแทฮยองที่กำลังแนะนำตัวแต่อย่างใดแต่กลับดึงจีมินให้เดินออกไปอีกทาง แทฮยองจึงทำได้เพียงยืนมองเพื่อนของตนเองที่โดนลากออกไปไกลออกไปทีละนิดๆ ก่อนจะละสายตากลับมาและพบเข้ากับชายหนุ่มร่างบางเจ้าของให้หน้าหวานที่เดินเข้ามายืนข้างๆเขา
"สวัสดีครับ ผมชื่อมินยุนกินะครับ เป็นเพื่อนสนิทของจองกุก คุณคงเป็นเพื่อนของคุณจีมินใช่มั๊ยครับ ไม่ทราบว่าคุณชื่อ......"
"ผมคิมแทฮยองครับ ใช่แล้วครับผมเป็นเพื่อนของจีมิน ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณยุนกิ..."
"คุณแทฮยองช่วยเข้าใจเพื่อนผมด้วยนะครับ จองกุกมันก็เป็นแบบนี้แหละครับ ไม่ค่อยชอบให้ใครมายุ่งกับของๆมัน"
"ผมไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นหรอกครับ ผมเป็นแค่เพื่อนของจีมินเท่านั้น ถ้าเพื่อนคุณคิดมากฝากบอกเขาด้วยนะครับว่าผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดีแบบนั้นเลย"
"ได้ครับ....เอ่อ...คุณมาคนเดียวเหรอครับ"
"ผมมากับคนในองค์กรน่ะครับ"
"อ้าว แล้วพวกเขาหายไปไหนกันหมดแล้วล่ะครับ"
"คนที่องค์กรส่วนใหญ่ไม่ใช่คนรุ่นเดียวกับผมหรอกครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นรุ่นพี่หรือไม่ก็รุ่นพ่อรุ่นแม่ไปเลย ในชีวิตของผมก็มีแค่จีมินที่เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันนี่แหละครับ"
"งั้น.....ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาท คุณแทฮยองสนใจมาร่วมพูดคุยกับพวกผมมั๊ยครับ มาผูกมิตรกันไว้ เพื่อนจองกุก เพื่อนคุณจีมิน เราก็เหมือนเพื่อนกันนะครับ"
"พวกคุณพร้อมจะรับผมเป็นเพื่อนรึป่าวล่ะครับ"
"แน่นอนสิครับ เราผูกมิตรกันไว้ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหายเลย ดีซะอีกพวกผมจะได้มีเพื่อนเพิ่มมาอีกตั้งหนึ่งคน"
"งั้นก็ยินดีครับ"
---------------
จองกุกพาจีมินเดินออกมาภายในตัวบ้านในที่ๆลับตาคน ก่อนจะจัดการเหวี่ยงร่างบางให้เซไปอีกทางจนจีมินชนเข้ากับข้าวของที่วางอยู่แถวนั้นหล่นกระจัดกระจายเต็มพื้น
"เพิ่งจะแต่งงานไปเมื่อเช้า ตกเย็นก็ไปยืนคุยกับผู้ชายแล้วเหรอ"
น้ำเสียงแข็งกร้าวถูกเอ่ยออกมาด้วยความโมโห เพราะภาพที่เขาเห็นภรรยาของตนกำลังยืนคุยกับคนอื่นมันก็ทำให้สัญชาตญาณของคนขี้หวงพุ่งขึ้นมาทันทีโดยไม่สนใจคำพูดของคนตรงหน้า
"แทฮยองเป็นเพื่อนของจีมินนะครับ"
"เพื่อนแล้วไง! นายขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาฉันแล้วนะ จะคุยกับใคร...จะทำอะไรก็เห็นแก่หน้าฉันบ้าง แขกในงานยังอยู่กันเต็มบ้านขนาดนี้ ไม่อายบ้างเหรอ"
"ทีคุณยังไปยืนคุยกับเพื่อนคุณได้เลย ทำไมจีมินจะคุยกับเพื่อนจีมินบ้างไม่ได้"
"เดี๋ยวนี้เก่งขึ้นเยอะหนิ เถียงฉันฉอดๆๆเลยนะ"
"ก็คุณกำลังไม่มีเหตุผลนี่ครับ"
"แล้วใครใช้ให้นายไปยืนคุยกับผู้ชายแบบนั้นล่ะ!!"
มือหนาฉุดเอาร่างบางให้เซเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตนเอง แรงดิ้นที่มีอันน้อยนิดไม่ได้ทำให้ลำแขนแกร่งปล่อยพันธนาการออกได้แต่อย่างไร
"ฉันบอกแล้วใช่มั๊ยจีมิน.....หลังจากแต่งงาน.....นายเป็นของฉัน ฉันไม่ชอบที่นายไปทำตัวสนิทสนมกับคนอื่นถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพื่อนของนายก็ตาม อะไรที่ฉันไม่ชอบ.....นายก็ห้ามทำ"
"คุณนี่มันไม่มีเหตุผลเอาซะจริงๆ"
"คำก็ไม่มีเหตุผล สองคำก็ไม่มีเหตุผล งั้นเรามาลองคุยกันแบบมีเหตุผลหน่อยมั๊ยจีมิน...."
ร่างสูงจัดการอุ้มคนตัวเล็กขึ้นพาดบนบ่าทันที ก่อนจะสาวเท้าพาคนตัวเล็กที่อยู่บนบ่าของตัวเองเดินขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้านตรงเข้าไปที่ห้องนอนที่ถูกจัดให้เป็นห้องหอทันที
จองกุกโยนร่างของจีมินลงไปบนเตียงนอนนุ่มของตนเอง ไม่รอช้ามือหนาจัดการถอดเนกไทและปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตของตัวเองและถอดมันออกจนเผยให้เห็นเรือนร่างของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนที่ดูแลร่างกายเป็นอย่างดี
เขากำลังระงับอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่.....
จีมินลุกออกจากเตียงและวิ่งไปทางประตูห้องนอนเพื่อหวังจะหนีจากการกระทำของคนตรงหน้าแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันความเร็วของจองกุกที่เดินไปตามฉุดกระชากตัวจีมินกลับมาที่เตียงอีกครั้ง
"คุณจองกุก คุณจะทำอะไร อย่าทำแบบนี้นะ!"
"มันไม่ยากหรอกจีมิน นายแค่เล่นไปตามเกมส์ของฉันเท่านั้นเอง"
"ไม่นะ คุณจองกุก อย่า!!!"
จองกุกขึ้นมาคร่อมร่างของจีมินบนเตียง มือหนาจัดการถอดชุดสูทของคนใต้ร่างออกหนึ่งชั้นและกระชากเสื้อเชิ้ตตัวในออกอย่างแรงจนกระดุมหลุดกระเด็มจนเต็มพื้น
จีมินพยายามดิ้นสุดฤทธิ์เพื่อให้หลุดออกจากพฤติกรรมอันหยาบคายของจองกุกที่ยังคงคร่อมร่างของตนเอาไว้ แต่ยิ่งขัดขืนก็เหมือนจะยิ่งทำให้พันธนาการที่กักขังตัวเองยิ่งรัดแน่นมากขึ้นเท่านั้น
"คงไม่ต้องสอนใช่มั๊ยว่าเราต้องคุยกันยังไง"
"คุณจองกุกปล่อยจีมินเถอะนะครับ จีมินขอร้อง"
"หึ มันง่ายไปหน่อยเหรอจีมิน ไปยืนคุยกับผู้ชายแบบนั้นทั้งๆที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียฉัน คิดว่าฉันจะหายโกรธง่ายๆเหรอ ฉันเป็นคนที่ระงับอารมณ์ไม่เก่งซะด้วยสิ..."
ดวงตาคู่เรียวส่งสายตาอ้อนวอนให้คนบนร่างยอมทำตามที่ตนเองขอ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล สุดท้ายน้ำตาที่กักกลั้นเอาไว้ก็ไหลออกมาด้วยความกลัว
"คุณจองกุกปล่อยจีมินนะ จีมินกลัวแล้ว จีมินขอโทษ...."
ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ จองกุกจัดการก้มลงไปที่ลำคอขาวของจีมินทันทีพร้อมกับส่งริมฝีปากดูดดึงและขบเม้มผิวเนียนจนเกิดเป็นรอยเลือดสีช้ำไปทั่วลำคอโดยที่มีมือของจีมินคอยทุบตีให้จองกุกหยุดพฤติกรรมอันหยาบคายนี้ซะ
สุดท้ายความอดทนก็ถึงขีดสุด...... ร่างกายของจีมินที่เคยดีดดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการกลับค่อยๆนอนแน่นิ่งลงไปเรื่อยๆพร้อมกับเสียงสะอื้นของคนตัวเล็กดังขึ้นเรียกสติของคนบนร่างให้กลับมาก่อนจะผละตนเองออกจากลำคอขาว
ดวงตาคู่คมมองไปยังใบหน้าของคนใต้ร่างที่ตอนนี้กำลังแปดเปื้อนไปด้วยน้ำตาและเรือนร่างที่สั่นไหวจากการสะอื้นไห้ พลันความรู้สึกบางอย่างก็เรียกสติให้เขาต้องหยุดการกระทำทุกอย่างลงและค่อยๆปลดปล่อยพันธนาการของตนจากคนใต้ร่าง
แววตาแสดงออกถึงความรู้สึกผิดของจองกุกสบประสานเข้ากับดวงตาอันโศกเศร้าของคนใต้ร่าง คำขอโทษที่ออกมาจากใจกลับกลายเป็นคำพูดที่ไร้ความหมายเพราะการกระทำทุกอย่างของเขามันทำลายทุกความไว้ใจของจีมินไปหมดแล้ว
"จีมิน....ฉัน...."
"จีมินคิดว่าคุณจะมีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ชิงกระทำเรื่องอย่างว่ากับจีมินทั้งๆที่ไม่ได้ยินยอม ฮึก! แต่คุณ......คุณกลับทำให้ความเชื่อใจที่จีมินมีให้คุณมันหายไปหมด ฮึก!"
"ฉันขอโทษ...."
"ฮึก! คำขอโทษของคุณมันคงไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้วล่ะครับ เพราะคุณทำให้จีมินหมดความเชื่อใจในตัวคุณไปแล้ว คุณมันใจร้ายคุณจองกุก....คุณได้ยินมั๊ยว่าคุณมันใจร้าย!!"
จีมินผลักจองกุกให้ออกห่างจากตัวเองทันทีก่อนจะรีบลุกขึ้นจากเตียงนอนและเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้คนผิดอย่างจองกุกนั่งจมกับความคิดในสิ่งที่ตนได้ทำร้ายคนตัวเล็กไปเมื่อครู่ก่อนจะสบถออกมาด้วยความหัวเสีย
"โถ่เว้ย!!!"
----------------
เป็นเวลากว่า 5 วันแล้วหลังจากแต่งงานที่จองกุกและจีมินไม่ได้นอนด้วยกันอย่างที่ควรจะเป็น ห้องนอนที่ถูกจัดให้นอนด้วยกันยังคนมีเพียงผู้เป็นเจ้าของห้องที่ยังคงนอนคนเดียวหลังจากคืนวันแต่งงาน และวันนี้จองกุกต้องอยู่ประชุมที่สำนักงานจนดึก กว่าจะกลับมาถึงที่บ้านก็ปาไปเกือบข้ามวันใหม่
ทันทีที่กลับถึงบ้านร่างสูงก็เดินขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้านและตรงเข้าไปที่ห้องนอนของตนเองทันที ด้วยความเครียดจากการทำงานมาอย่างหนักหน่วงตลอดวัน จองกุกเพียงแค่ต้องการใครสักคนที่พอจะทำให้เขาผ่อนคลายลงได้ แต่มันก็มีเพียงความว่างเปล่าที่เขาสัมผัสได้เท่านั้น.......
จองกุกเดินไปหยิบบุหรี่หนึ่งมวนขึ้นมาคาบไว้ก่อนจะทำการจุดให้เกิดการเผาไหม้และสูดเอาสารนิโคตินเข้าไปจนเต็มปอดก่อนจะพ่นควันออกมาจนคลุ้งไปทั่วห้องนอน ดวงตาคู่คมค่อยๆหลับลงเพราะความคิดมากมายทั้งการงานและครอบครัวกำลังทำให้เขารู้สึกหนักอึ้งในหัวของตัวเอง
ตั้งแต่คืนนั้นวันแต่งงาน.....เขาก็ไม่ได้คุยกับจีมินอีกเลย เขารู้ว่าคนตัวเล็กโกรธมากแค่ไหนกับการกระทำของตน ใช่ว่าเขาจะไม่ง้อ ตลอfเวลาที่ผ่านมาจองกุกพยายามที่จะเข้าหาจีมินตลอดแต่ก็ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะคอยหนีและหลบหน้าอยู่ตลอดเวลา นั่นทำให้จองกุกไม่มีทางเลือก เขาทำได้แค่รอให้ทุกอย่างดีขึ้นแล้วค่อยเข้าไปคุย แต่ถ้ามันไม่ได้ผล...เขาคงต้องทำอะไรสักอย่าง
"เห้ออออออออ"
ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับดวงตาที่ลืมขึ้นมองเพดานห้องและกวาดมองไปทั่วห้องนอนที่ว่างเปล่าไร้คู่นอนอย่างที่ควรเป็น
จองกุกดีดตัวเองลุกออกจากเตียงและก้าวเดินออกมาจากห้องนอนของตนเอง ก่อนจะเดินตรงไปอีกทางที่เป็นทางไปห้องนอนของคนที่เขาโหยหามาตลอดหลายวันที่ผ่านมา เขาเดินมาหยุดที่หน้าประตูห้องนอนของจีมินสักพักก่อนจะตัดสินใจยกมือขึ้นมาเปิดประตู
จองกุกค่อยๆพาตัวเองเข้าไปในห้องนอนของจีมิน เขาสาวเท้าเดินมาที่เตียงอย่างย่องเบาประหนึ่งตนเองเป็นโจรขโมยที่แอบย่องเบาเข้าบ้านคนอื่นและนั่งลงบนพื้นที่ว่างข้างๆจีมินที่นอนอยู่บนเตียง
สายตาคู่คมยังคงจับจ้องไปที่เรือนร่างบางที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียง ก่อนจะค่อยๆทิ้งตัวลงนอนพร้อมกับส่งลำแขนไปโอบกอดร่างของจีมินไว้
"เมื่อไหร่นายจะให้อภัยฉันสักที จีมิน......"
เปลือกตาหนาที่เคยปิดบังดวงตาคู่เรียวค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆ จริงๆแล้วจีมินยังไม่ได้หลับสนิทจนถึงขนาดที่ไม่รู้ว่ามีคนแอบเข้ามาในห้องและนอนกอดตัวเองอยู่แบบนี้ เขารู้......ทุกคำ ทุกประโยคที่จองกุกพูดออกมา ก่อนที่คำพูดหนึ่งคำจะทำให้น้ำตาค่อยๆเอ่อไหลลงมาเปื้อนหมอน.....
"ฉันขอโทษ.....จีมิน.....ฉันผิดไปแล้ว.....ให้อภัยฉันได้มั๊ย"
TALK///
จองกุกไม่อ่อนโยนเลยทำแบบนี้กับจีมินได้ยังไง นึกว่าแต่งงานแล้วจะเปลี่ยนตัวเองซะอีก 55555 แต่คราวนี้ไรท์แอบรู้สึกสมน้ำหน้าจองกุกนิดนึงเลยค่ะ (อย่าว่าไรท์นะ 555555) ทำกับจีมินไว้เยอะโดนแบบนี้กลับสักครั้งคงจะจำไปอีกนานเลยค่ะ 55555555
ไรท์รู้ว่ารีดเดอร์ทุกคนกำลังรอ NC กันอยู่ใช่มั๊ยคะ ขอสปอยล์ว่ามันจะมาเร็วๆนี้แน่นอนค่ะ ช่วยรออีกนิดนะคะ :)
#NRTLกุกมิน